5 ท่าออกกำลังกายเพื่อห่างไกลจากโรคออฟฟิศซินโดรม
การออกกำลังกายเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ร่างกายมีการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ และเป็นการสร้างกล้ามเนื้อให้มีความแข็งแรงมากขึ้น นอกจากจะเป็นการเสริมในเรื่องของสุขภาพกายแล้ว ยังช่วยให้ลดความเครียดและเพิ่มความสดชื่นได้ และถ้าใครที่ทำงานในออฟฟิศยิ่งจำเป็นต้องออกกำลังกายด้วยท่าเหล่านี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นออฟฟิศซินโดรม ซึ่งท่าที่แนะนำ 5 ท่านี้ เป็นท่าเฉพาะจุดที่ช่วยเรื่องนี้ได้โดยตรง
5 ท่าออกกำลังกาย ที่ทำให้ห่างไกลโรคออฟฟิศซินโดรมได้
การออกกำลังกายด้วย 5 ท่านี้ใช้เวลาไม่นาน แต่ช่วยให้เกิดการคลายกล้ามเนื้อตามจุดได้เป็นอย่างดี และยังไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์อะไรมาเสริมด้วย เพียงแค่ทำการขยับร่างกายและลงน้ำหนักในแต่ละตำแหน่งอย่างถูกต้อง ก็ทำให้กล้ามเนื้อถูกบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ท่าที่ 1 ยืดกล้ามเนื้อบริเวณต้นคอ
ต้นคอเป็นจุดที่มีการปวดเมื่อยบ่อย การบริหารต้นคอที่ถูกวิธีก็คือ การเอียงคอไปทางซ้ายจนรู้สึกว่ากล้ามเนื้อที่คอตึง จากนั้นใช้มือซ้ายกดยึดที่ศีรษะเบา ๆ ค้างไว้ 10-15 วินาที แล้วจึงค่อย ๆ คลายมือออก ทำการสลับข้างและทำเหมือนเดิม จนครบ 2-3 รอบ
ท่าที่ 2 ยืดกล้ามเนื้อที่แขนและไหล่
การยืดกล้ามเนื้อในจุดนี้ให้เริ่มจากเหยียดแขนซ้ายไปทางฝั่งขวามือ และใช้แขนขวาล็อกแขนซ้ายไว้ แล้วค่อย ๆ ใช้แขนข้างขวาที่ล็อกแขนข้างซ้ายดึงให้แขนตึง ค้างไว้ 10-15 วินาที ทำสลับกันไปมา 2-3 รอบ ก็จะรู้สึกดีขึ้น ไม่ปวดตึง
ท่าที่ 3 ยืดกล้ามเนื้อหลังและสีข้าง
ยกแขนขวาขึ้นเหนือศีรษะจากนั้นทำการงอข้อศอกขวา ให้มือขวาไปแตะไหล่ซ้าย ใช้มือซ้ายอ้อมไปหลังศีรษะ แล้วดันข้อศอกขวาเบา ๆ จนรู้สึกตึง ค้างไว้ประมาณ 10-15 วินาที และทำสลับข้าง วนแบบนี้ 2-3 รอบ จะทำให้รู้สึกผ่อนคลายกล้ามเนื้อหลังได้มากขึ้น
ท่าที่ 4 บริหารกล้ามเนื้อบริเวณหน้าอก
ลุกขึ้นยืนตัวตรงประสานมือไว้ข้างหลัง ยกมือขึ้นช้า ๆ แหงนหน้าขึ้น แล้วค้างไว้ 10 วินาที ต่อมาเปลี่ยนท่าเป็นกอดตัวเองและเอามือโอบไปด้านหลังให้มากที่สุด เมื่อรู้สึกตึงให้ค้างไว้ 10 วินาที ทำ 2 ท่านี้สลับกัน 1-2 รอบ ในทุกครั้งที่รู้สึกปวดที่ไหล่และกล้ามเนื้อบริเวณหน้าอก
ท่าที่ 5 บริหารกล้ามเนื้อช่วงสะโพก
ท่านี้ถือเป็นท่าที่มีประโยชน์กับคนที่นั่งติดเก้าอี้ตลอดทั้งวัน เมื่อรู้สึกปวดที่สะโพก ขา และเท้าเริ่มชา การออกกำลังกายในท่านี้ช่วยให้อาการเหล่านี้ดีขึ้นได้ เมื่อเริ่มมีอาการปวดให้ยกเท้าซ้ายขึ้นมาวางทับเหนือเข่าข้างขวา เอนตัวไปด้านหน้าจนกว่าจะรู้สึกตึกที่ต้นขาซ้าย จากนั้นค้างไว้ 10 วินาที ต่อมาทำการสลับข้าง ทำต่อเนื่อง 1-2 รอบ ก็จะมีอาการดีขึ้น
หากมีอาการเหล่านี้ไม่ควรออกกำลังกายเด็ดขาด
แน่นอนว่าทุกอย่างบนโลกนี้ย่อมมีขีดจำกัดและข้อห้ามอยู่เสมอ ซึ่งการออกกำลังกายก็เช่นเดียวกัน หากว่ามีอาการปวด บวม และแดงในจุดใดจุดหนึ่งมากเป็นพิเศษ ห้ามทำการออกกำลังกายในจุดนั้นเด็ดขาด เพราะจะยิ่งทำให้เกิดการอักเสบของกล้ามเนื้อ และทุกครั้งที่ทำการออกกำลังกายห้ามกลั้นหายใจ เพราะการกลั้นหายใจจะทำให้ออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายได้น้อย และร่างกายจะเกิดความตึงเครียดได้
การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพก็จริง แต่ก็ต้องระวังเรื่องของความไม่พร้อมของร่างกายด้วยเช่นเดียวกัน เพราะถ้าหากว่าออกกำลังกายในช่วงที่สภาพร่างกายไม่พร้อม จะเป็นการทำให้ร่างกายได้รับบาดเจ็บได้ง่ายขึ้น และควรออกกำลังกายแค่เพียงพอดีเท่านั้น การฝืนทำอะไรที่มากเกินควรเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้เกิดโทษมากกว่าการได้รับสุขภาพที่ดี
ท่าออกกำลังกายทั้งหมดนี้สามารถทำได้ง่ายมาก และยังใช้เวลาเพียงน้อยนิดเท่านั้น แต่สามารถแก้ปัญหาเกี่ยวกับจุดเสี่ยงที่จะเป็นออฟฟิศซินโดรม และยังช่วยลดอาการปวดบริเวณดังกล่าวได้เป็นอย่างดี ซึ่งท่าบริหารเหล่านี้สามารถออกได้ในระหว่างวันที่รู้สึกเมื่อยตามจุดต่าง ๆ หรือจะทำการออกเป็นประจำในเวลาเช้าและเย็นทุกวันก็ได้เช่นเดียวกัน