5 เทคนิคการเลี้ยงลูกอย่างไรให้มีสุขภาพจิตที่ดี

5 เทคนิคการเลี้ยงลูกอย่างไรให้มีสุขภาพจิตที่ดี

การเลี้ยงลูกให้มีความสุขนั้น แน่นอนว่านอกจากสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์พร้อมแล้วนั้น สุขภาพจิตก็เป็นสิ่งสำคัญมาก ที่พ่อแม่ควรต้องให้ความสนใจไม่แพ้กัน เพราะการมีสุขภาพจิตที่ดีจะทำให้ลูกอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข ไม่ว่าจะต้องเจอเรื่องยากลำบากอะไรในชีวิตก็ตาม หรือแม้แต่ในวันที่ไม่มีพ่อแม่อยู่เคียงข้าง เขาก็ยังจะสามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้อย่างดี

เด็กที่มีสุขภาพจิตดี วัดได้จากอะไร

สุขภาพจิตดี คือ สภาวะจิตใจที่มั่นคงแข็งแรง มีความมั่งคงทางอารมณ์ ไม่โกรธหรือโมโหง่ายจนเกินไป สภาพจิตใจที่พร้อมปรับตัวให้สามารถอยู่ร่วมกับผู้คนในสังคมได้อย่างปกติสุข เด็กที่มีสุขภาพจิตที่ดีนั้นเราจะสังเกตได้ไม่ยาก คือ

1. อารมณ์นิ่งมั่นคง ไม่เป็นเด็กขี้หงุดหงิดง่าย

อาจจะมีอาการงอแงบ้างตามประสาเด็ก แต่เมื่ออธิบายด้วยเหตุผลเขาจะรับฟัง หรือจะไม่ร้องไห้โวยวายเป็นเวลานานเกินไปโดยไม่มีสาเหตุ

2. มีสมาธิจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ทำ ไม่วอกแวกง่าย

เด็กที่มีสุขภาพจิตที่ดีมักจะมีสมาธิดี สามารถโฟกัสกับสิ่งที่กำลังทำ หรือให้ความสนใจได้เป็นระยะเวลานาน ไม่เบื่อกับอะไรง่าย ๆ

3. อารมณ์ดี ยิ้มบ่อย หัวเราะง่าย

หากเด็กน้อยมีสุขภาพจิตที่ดี เราจะสังเกตได้ง่าย เช่น เขามักจะหัวเราะได้ง่ายและบ่อยกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เด็กบางคนอาจจะชอบร้องเพลงหรือเต้น ซึ่งเป็นไปโดยธรรมชาติ และมวลความสุขจะออกมาจากตัวเขาอย่างเห็นได้ชัด

5 เทคนิคง่าย ๆ ช่วยให้ลูกน้อยมีสุขภาพจิตดี มีความสุขทุกวัน

เชื่อว่าพ่อแม่ส่วนใหญ่ก็อยากเลี้ยงลูกของตัวเองให้เติบโตมาอย่างมั่งคง แข็งแรง ทั้งทางร่างกายและจิตใจ และนี่คือ 5 เทคนิคง่าย ๆ ที่จะช่วยให้ลูกน้อยเติบโตอย่างมีสุขภาพจิตดี และมีความสุขกับการใช้ชีวิต

1. ส่งเสริมลูกน้อยให้มีความมั่นคงทางอารมณ์

เพราะความฉลาดทางอารมณ์จะสามารถช่วยให้ลูกน้อยจัดการกับอารมณ์ของตนเองได้เป็นอย่างดี เมื่อต้องเผชิญกับเรื่องที่เข้ามากระทบความรู้สึก เช่น หากเขาหงุดหงิดหรืองอแง โมโหกับเรื่องใดก็ตาม พ่อแม่ต้องค่อย ๆ อธิบายให้ลูกเข้าใจ และใจเย็นลง เป็นต้น

2. สนับสนุนให้ลูกทำกิจกรรมที่ฝึกสมาธิ

หากลูกมีสมาธิดีก็จะทำให้สามารถโฟกัสกับการเรียนรู้ต่าง ๆ ได้ดีขึ้น เมื่อทำได้ดีก็จะทำให้สุขภาพจิตและอารมณ์ดีตามไปด้วย เช่น การวาดภาพระบายสี การอ่านนิทาน การต่อภาพจิกซอว์ การปลูกต้นไม้ เป็นต้น

3. หาเวลาในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกับลูกบ่อย ๆ

เพราะสิ่งสำคัญที่ลูกต้องการก็คือ “เวลา” ที่จะได้อยู่ใกล้ชิดกับพ่อแม่ ได้ทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน ช่วยทำให้เกิดสายใยความผูกพันระหว่างกันในครอบครัวเพิ่มมากขึ้น

4. รับฟัง และพยายามเข้าใจความรู้สึกลูก

เด็ก ๆ อาจจะยังไม่สามารถอธิบายทุกสิ่งที่เขารู้สึกหรือต้องการได้ ดังนั้นพ่อแม่ควรให้ความใส่ใจ ความอดทนในการรับฟังความรู้สึกของลูก เพื่อให้สามารถเข้าใจความต้องการของลูก และช่วยเขาได้มากที่สุดเท่าที่เขาต้องการ

5. สนับสนุนให้ลูกทำกิจกรรมที่เสริมสร้างพัฒนาการ ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ

เพิ่มกิจกรรมระหว่างวันที่จะช่วยปลูกฝังสิ่งดี ๆ ทั้งต่อร่างกายและจิตใจ เช่น สนับสนุนให้ลูกออกกำลังกาย เพื่อให้เขาฝึกใช้กล้ามเนื้อมัดต่าง ๆ อ่านหนังสือนิทานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาด้านจิตใจ ด้านคุณธรรมให้ลูกฟัง อย่างนิทานเกี่ยวกับเรื่องบาปบุญคุณโทษ หรือนิทานเด็กที่มีคำสอนดี ๆ เป็นต้น

เชื่อเหลือเกินว่า ยิ่งสามารถเลี้ยงลูกน้อยให้มีสุขภาพจิตที่ดีได้มากเท่าไหร่ คนที่จะมีความสุขมากที่สุด เมื่อได้เห็นลูกมีความสุขก็คือ พ่อแม่นั่นเอง ดังนั้นพ่อแม่ท่านใดอยากให้ลูกมีสุขภาพจิตดี ก็อย่าลืมนำเอาเคล็ดลับดี ๆ ที่นำมาฝากนี้ไปทดลองใช้กันได้เลย

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Scroll to Top